Tuesday, March 3, 2015
การเรียนภาษาด้วยตัวเอง เริ่มต้นที่ ทัศนคติ
สิ่งที่ทำให้เราประสบความสำเร็จได้ ในการที่เราจะเริ่มทำอะไรก็แล้วแต่ในโลกนี้นั้น เกิดจาก ตัวเรา มาจาก ความคิด และ ทัศนคติของเรา ที่มีต่อสิ่งนั้น
การเรียนภาษาให้ได้ผลก็เช่นกัน เราต้องมีทัศนคติที่ดีกับมัน และ มีการวางเป้าหมายชัดเจน
เรื่องของทัศนคติ กับการเรียนภาษา
ก่อนอื่นเราต้องยอมรับ ความจริง ก็คือว่า การเรียนภาษาต่างประเทศ เช่นภาษาอังกฤษ ที่เป็นภาษาส่ือ
กลางทั่วโลกนั้น หากเป็นเรื่องง่าย คนทั่วโลกคงพูดภาษาอังกฤษได้ ภาษาต่างประเทศอื่นๆก็เช่นกัน
แต่หากเราปรับทัศนคติของเรา แล้วคิดว่า ถึงจะเป็นเรื่องไม่ง่าย แต่เป็นเรื่องที่สามารถทำได้ คนอื่นทำได้ เราก็สามารถทำได้
ถ้าเราย้อนกลับไปตอนเป็นเด็ก ที่เราเริ่มใช้ภาษาไทยนั้น กว่าเราจะพูดได้ และ เขียนได้อ่านออกในเวลาต่อมา เราก็ต้องผ่านระดับอนุบาล ประถม ตามลำดับ และหากเราจำได้ เราก็ใช้เวลาในการเรียนและการทำการบ้านเพื่อเรียนภาษาไทยของเราเองมากมาย
การเรียนภาษา เป็นทักษะ ต้องใช้ ต้องทบทวน ถึงจะได้ผล
การเรียนภาษาต่างประเทศ ก็ไม่ต่างกัน เราจำเป็นต้องให้เวลา และ ลงแรง กับการเรียน
การที่เราเริ่มเรียนภาษาใหม่ ก็เหมือนเรากลับไปเป็นเด็กอีกครั้ง
ท่านลองคิดดู ว่าตอนเด็กเราเรียนภาษาไทยเราอย่างเรา
เราพูดคุยได้ แบบเด็กๆ ก่อนที่จะเข้าเรียน แล้วเริ่มเขียน ก ข ค และ สร้างคำ สร้างประโยค ในเวลาถัดไปๆ การเรียนภาษาต่างประเทศก็เช่นกัน เราต้องกลับไปเป็นเด็ก เพื่อเริ่มเรียนทุกอย่างใหม่
ย้อนกลับไปตอนเราเคยเรียนภาษาอังกฤษ เรียนมานานแสนนาน แต่ก็ยังรู้สึกว่า ยังใช้มันไม่ได้
พูดไม่ออก นั่นคงเป็นเพราะว่า เราขาด เป้าหมาย ของการเรียน เราเรียนตามหลักสูตรที่ โรงเรียนสอนมา เราอาจจะโทษหลักสูตร โทษคุณครู โทษหนังสือ โทษวิธีการเรียน โทษสิ่งแวดล้อมที่ไม่เอื้อต่อการเรียนการใช้ภาษาอังกฤษ
หากใครมีโอกาสได้เรียนภาษาที่สาม ก็จะเริ่มเข้าใจการเรียนภาษาต่างประเทศมากขึ้น
เรามักจะเอาวิธีการเรียนภาษาอังกฤษ มาเปรียบเทียบกับภาษาที่สาม
สำหรับคนที่เรียนภาษาที่สามผ่านมาแล้ว เขาว่ากันว่า การเรียนภาษาที่สี่ ห้า หก...นั้นก็จะง่ายขึ้น
ความจริงอีกข้อที่ต้องยอมรับ คือ เราเป็นชาวต่างชาติที่เรียนภาษาต่างประเทศ บางทีเราอาจะรู้สึกเขิน อาย หรือ กลัวที่จะพูดหรือใช้ภาษาของเขา เราจึงไม่ยอมพูด ไม่กล้าที่จะพูด ขอให้ท่านยอมรับความจริงที่ว่า มันไม่ใช่ภาษาของเรา เรามีสิทธิที่จะพูดผิดพูดถูก เขียนผิดเขียนถูกเป็นเรื่องธรรมดา แล้วขอให้ท่าน กล้าที่จะใช้ภาษา กล้าที่จะพูดผิด กล้าที่จะถาม อย่าไปใส่ใจว่าใครจะหัวเราะหรือว่าเราอย่างไร การพูดภาษาของเขาไม่ได้ ไม่ได้แปลว่าเราโง่
กลับมาถึงเรื่องการปรับทัศนคติสำหรับการเรียนภาษาด้วยตัวเอง
- ดิฉัน อยากให้ท่านตัดคำว่า "ยาก" ออกไปจากพจนานุกรมการเรียนภาษาของท่าน อย่า
ขอให้คิดว่า เป็นเรื่องที่สามารถทำได้ ถ้าเราตั้งใจและพยายาม คนอื่นทำได้ เราก็ทำได้
อย่าไปให้ความสำคัญว่า ภาษานี้ยากอย่างนั้น ยากอย่างนี้ โปรดจำไว้ ว่าทุกภาษามีความยากง่ายของมัน และให้จำไว้ ว่าภาษาไทยก็เป็นภาษาที่ยากที่สุดในโลกภาษาหนึ่ง หากเราใช้ภาษาไทยได้แล้ว การเรียนภาษาอื่นเราก็ต้องทำได้เหมือนกัน
-ไม่พยายามจำประโยคยอดฮิตสำหรับผู้เรียนภาษาเบื้องต้นที่ว่า "ฉันพูดภาษานี้ได้นิดหน่อย" เพราะหากท่านพยายาม เวลาผ่านไป ท่านยังตอบคนที่ถามท่านด้วยประโยคนี้เหมือนเดิม หากใครถามว่าเราพูดภาษาเขาได้มั้ย ก็บอกไปว่า "ฉัน(พยายาม)เรียนอยู่" จะดีกว่า
- อายุ ที่เพิ่มมากขึ้น ไม่ใช่อุปสรรคในการเรียนรู้เพิ่มเติมแต่อย่างใด หากใจเราพร้อม
- คำว่า "ไม่มีเวลา" เป็นเพียงข้ออ้างเท่านั้น คนเรามีเวลา 24 ชม ต่อ วัน หนึ่งอาทิตย์ มี 7 วัน
เราสามารถจัดสรรมันให้เพียงพอกับทุกสิ่งได้
- เป้าหมาย ก่อนอื่น ฉัน อยากให้ท่านถามตัวเองว่าเราอยากเรียนภาษานี้ ไปเพื่ออะไร และ เราอยากเรียนได้ถึงระดับไหน เราอยากพูดได้ สื่อสารรู้เรื่อง เราอยากใช้ภาษานี้ในระดับวิชาการศึกษาเล่าเรียน
เราอยากใช้มันทำงาน เมื่อท่านมีเป้าหมายแล้ว เราอยากพูด อ่าน เขียนได้ ระดับไหน
การเรียนภาษาด้วยตัวเอง นั้น ย่อมมีความยากกว่า การเข้าห้องเรียน หรือ การเรียนโดยมีผู้สอน แต่ในความเป็นจริงแล้ว มีผู้คนมากมายที่เรียนภาษาต่างประเทศด้วยตัวเองได้
ในประเทศกรีซก็เช่นกัน มีแรงงาน ชาวต่างชาติ ชาวต่างด้าว ที่เรียนภาษากรีกด้วยตัวเองอยู่มาก เพราะไม่ใช่ทุกคนที่จะมีโอกาส เวลา หรือกำลังทรัพย์ไปเข้าเรียนในห้องเรียน ทั้งที่ฟรีและไม่ฟรี
แล้วพวกเขาเหล่านั้น เรียนภาษากรีกได้ด้วยตัวเองอย่างไร?ในเมื่อเขาทำได้ คุณก็ทำได้
ในตอนถัดไปเราจะพูดคุยเรื่องเทคนิคการเรียนภาษาเพิ่มเติม
Subscribe to:
Post Comments (Atom)
No comments:
Post a Comment